วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2555

การทอเสื่อกก


โครงงาน
วิชา   การงานอาชีพและเทคโนโลยี
เรื่อง  Blogger การทอเสื่อกก

จัดทำโดย

นางสาว กนกวรรณ  พันธ์ศรี     เลขที่ ๑๓
นางสาว กฤติยาภรณ์  วิสัยหมู   เลขที่  ๑๔
นางสาว บุญฑริกา    เหล่าอัน    เลขที่ ๒๔
นางสาว อมรรัตน์      พันเดช    เลขที่ ๓๕
นางสาว  นิตยา     แก้วเก็บคำ     เลขที่๔๑
นางสาว จิราวรรณ    พลเนตร   เลขที่๔๔

เสนอ

คุณครู  กฤตพล   อินทร์เสนลา

โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน2   (สมาน  สุเมโธ)

ชื่อโครงงาน                  Blogger การทอเสื่อกกในตำบลโคกสี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
ชื่อผู้จัดทำโครงงาน        ๑.นางสาว กนกวรรณ  พันธ์ศรี     เลขที่ ๑๓
                                       ๒.นางสาว กฤติยาภรณ์  วิสัยหมู  เลขที่  ๑๔
                                      ๓.นางสาว บุญฑริกา    เหล่าอัน    เลขที่ ๒๔
                                      ๔.นางสาว อมรรัตน์      พันเดช    เลขที่ ๓๕
                                       ๕นางสาว  นิตยา    แก้วเก็บคำ    เลขที่๔๑
                                       ๖นางสาว จิราวรรณ    พลเนตร   เลขที่๔๔   
ระดับชั้น                       มัธยมศึกษาปีที่ ๕/๒
อาจารย์ที่ปรึกษา           อาจารย์  กฤตพล   อินทร์เสนลา
โรงเรียน                        ขอนแก่นวิทยายน ๒ (สมาน สุเมโธ)
ปีการศึกษา                   ๒๕๕๕























บทคัดย่อ

                  โครงงานภูมิปัญญาท้องถิ่น เรื่อง เสื่อกกทอมือ ในตำบลโคกสี จังหวัดขอนแก่น มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาของการทอเสื่อกก เพื่อให้รู้จักขั้นตอนวิธีการทอเสื่อกก เพื่อสืบทอดและดำรงรักษาภูมิปัญญาการทอเสื่อกกให้คงอยู่ตลอดไป และเพื่อเผยแพร่ภูมิปัญญาการทอเสื่อกกให้แพร่หลาย   กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ   ชาวบ้านหนองหัววัว  หมู่ที่ ๕ ตำบลโคกสี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้วิธีการสัมภาษณ์
                  ผลของการศึกษา เรื่อง การทอเสื่อกก ทำให้ได้ทราบว่า การทอเสื่อกกมีการสืบทอดมาตั้งแต่สมัย ปู่ย่า ตายาย โดยเริ่มแรกมีการใช้กกเหลี่ยม หรือที่เรียกว่าผือนา ยังไม่มีการย้อมสีผลิตภัณฑ์ หรือทำลวดลาย ส่วนใหญ่นำมาใช้ในครัวเรือน ส่วนในปัจจุบันนิยมใช้กกกลมมาใช้แทนกกเหลี่ยม เนื่องจาก หาง่ายในแหล่งธรรมชาติ และเมื่อนำมาทอเสื่อแล้ว มีคุณสมบัติเหนียว และเป็นมันวาว  ผู้เรียนได้เกิดความตระหนักและเห็นคุณค่าภูมิปัญญาการทอเสื่อกก สมาชิกในกลุ่มมีความสามัคคีในการปฏิบัติงานอย่างดี ทำให้ได้เอกสารเกี่ยวกับการทอเสื่อกกไว้เผยแพร่ และใช้เป็นแนวทางในการทำโครงงานอื่น ๆแก่ผู้สนใจ




















กิตติกรรมประกาศ
               การจัดทำโครงงาน เรื่องเสื่อกกทอมือ   สำเร็จสมบูรณ์ได้ด้วยความกรุณา และช่วยเหลืออย่างดียิ่งของคุณครูอมรรัตน์ พิทักษ์วงศ์ศร ครูที่ปรึกษาโครงงาน ที่ได้กรุณาตรวจสอบและแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ ผู้ศึกษาขอกราบของพระคุณเป็นอย่างสูง
             ขอขอบพระคุณบิดา มารดา ที่ส่งเสริมสนับสนุน และให้กำลังใจในการทำงานครั้งนี้จนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
             ขอบคุณเพื่อนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕/๒ ทุกคนในกลุ่มที่ให้ความร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจ และคำเสนอแนะเป็นอย่างดี
  
คณะผู้จัดทำ

















บทที่ ๑
บทนำ

ความเป็นมาและความสำคัญของโครงงาน
                  
                  ชาวบ้านในตำบลโคกสี มีอาชีพทำเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ เมื่อว่างเว้นจากการทำเกษตรกรรม ก็มีการประกอบอาชีพเสริม เช่นการทอสื่อกก กันมาก บางครัวเรือนได้ยึดเป็นอาชีพหลัก สร้างรายได้ให้กับครอบครัวซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่สืบทอดมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งมีการพัฒนาลวดลายบนผืนเสื่อเป็นลวดลายต่างหลากหลาย มีความสวยงาม โดดเด่น ดังนั้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์ภูมปัญญาท้องถิ่น ให้สามารถยึดเป็นอาชีพหลักและอาชีพรองได้ ทางกลุ่มจึงได้จัดทำโครงงานนี้ขึ้น

วัตถุประสงค์
                  ๑. เพื่อให้ทราบความเป็นมาของการทอเสื่อกก
                  ๒. เพื่อให้รู้จักขั้นตอนวิธีการทอเสื่อกก
                  ๓. เพื่อเป็นการสืบทอด และดำรงรักษาภูมิปัญญาการทอเสื่อกกให้คงอยู่กับสังคมท้องถิ่นต่อไป
                  ๔.เพื่อเป็นการเผยแพร่ภูมิปัญญาการทอเสื่อกกให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย

ความสำคัญของการศึกษา
๑.    ได้แนวทางสำหรับผู้สนใจในการจัดการเรียนรู้โดยโครงงานใช้สำหรับการจัดกิจกรรม
การเรียนรู้ในเนื้อหา วิชาอื่น ๆ และระดับชั้นอื่น ๆ ต่อไป

ขอบเขตของการศึกษา
                  ๑. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
                        ประชากร ได้แก่ ชาวบ้านในตำบลคอนสวรรค์ อำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ
                        กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ชาวบ้านในหมู่บ้านนาเสียว ตำบลคอนสวรรค์ อำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ ที่ทอเสื่อกกหลังว่างจากการทำนา 
๒.    เนื้อหา
                               เนื้อหาที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ คือ เรื่อง ภูมิปัญญาท้องถิ่น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2มีรายละเอียด ดังนี้
๑.    ความหมาย ความสำคัญของภูมิปัญญาท้องถิ่น
๒.    ลักษณะของภูมิปัญญาท้องถิ่น
๓.    ประเภทของภูมิปัญญาท้องถิ่นและภูมิปัญญาไทย
๔.    ภูมิปัญญาที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น
๕.    ภูมิปัญญาท้องถิ่นในแต่ละภูมิภาค
๖.    การอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นและภูมิปัญญาไทย
๗.    คุณค่าและการสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น

คำนิยามศัพท์

.    การทอเสื่อกก หมายถึง การนำต้นกกที่เกิดขึ้นตามแหล่งต่าง ๆ เช่น ห้วย หนอง
คลอง บึง หรือตามที่ชาวบ้านปลูก มาสอยตากแห้งและนำมาทอเป็นผืนเสื่อใช้ประโยชน์สำหรับปูนอน ปูพื้นสำหรับรับแขก ปูลาดตามพื้นในโบสถ์ ศาลาวัด หรืองานในชุมชนต่าง ๆ

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

๑.ได้รู้จักประวัติความเป็นมาการทอเสื่อกก
๒.ได้รู้จักขั้นตอนและวิธีการทอเสื่อกก
๓.ได้สืบทอด และดำรงรักษาภูมิปัญญาการทอเสื่อกกให้อยู่กับสังคมท้องถิ่นตลอดไป
๔.ได้เผยแพร่ภูมิปัญญาการทอเสื่อกกให้แพร่หลาย

 

บทที่ 
เอกสารที่เกี่ยวข้อง

                  การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ทางกลุ่มผู้ศึกษา ได้ทำการศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้เป็นแนวคิดในการศึกษาค้นคว้า ดังนี้
                  ๑. เอกสารเกี่ยวกับโครงงาน
                  ๒. เอกสารเกี่ยวกับภูมิปัญญาท้องถิ่นอำเภอคอนสวรรค์

๑. เอกสารเกี่ยวกับโครงงาน
                  โครงงาน หมายถึง กระบวนการเรียนรู้ที่ผู้เรียนเป็นผู้ลงมือปฏิบัติอย่างเป็นระบบ
เพื่อสร้างองค์ความรู้หรือแก้ไขปัญหาโดยการศึกษาค้นคว้า ทดลองตามขั้นตอนและส่วนประกอบ
ของโครงงาน
                        ๑. หลักการสำคัญของการเรียนรู้แบบโครงงาน
                               ๑.๑ ผู้เรียนได้เลือกเรื่อง ประเด็น หรือปัญหาที่ต้องศึกษาด้วยตนเอง
                               ๑.๒ ผู้เรียนสามารถเลือกวิธีการศึกษาด้วยตนเอง
                               ๑.๓ ผู้เรียนเป็นผู้ลงมือปฏิบัติการเรียนรู้ด้วยตนเอง
                               ๑.๔ ผู้เรียนรู้จักบูรณาการทักษะ ประสบการณ์ ความรู้ที่มีอยู่ในสภาพแวดล้อมเพื่อสร้างองค์ความรู้
                               ๑.๕ ผู้เรียนรู้จักสร้างข้อคำถาม แสวงหาคำตอบด้วยตนเอง
                               ๑.๖ ผู้เรียนรู้จักสรุปองค์ความรู้ด้วยตนเอง
                               ๑.๗ ผู้เรียนรู้จักการแลกเปลี่ยนการเรียนรู้กับผู้อื่น
                               ๑.๘ ผู้เรียนสามารถนำคำตอบหรือองค์ความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง




๒. ลักษณะของโครงงาน
                               โครงงานเป็นส่วนที่ให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติ เพื่อพัฒนาความรู้ ทักษะ และสร้างผลผลิตที่มีคุณภาพ จำแนกเป็น  ประเภท คือ
                               ๑. โครงงานตามสาระการเรียนรู้ เป็นโครงงานที่ผู้เรียนเลือกหัวข้อที่จะศึกษา
จากหน่วยเนื้อหาที่เรียนในชั้นเรียน มากำหนดหัวข้อโครงงาน โดยบูรณาการความรู้ในกลุ่มสาระ
การเรียนรู้ต่าง ๆ ไปค้นคว้าในสาระการเรียนรู้ที่สนใจและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
                               ๒. โครงงานตามความสนใจ เป็นโครงงานที่ผู้เรียนสนใจจะศึกษาในเรื่องใดเรื่อง
หนึ่งเป็นพิเศษ อาจเป็นเรื่องในชีวิตประจำวัน สภาพสังคมที่ยังต้องการคำตอบข้อสรุปที่อาจอยู่นอกเหนือจากสาระการเรียนรู้ในบทเรียน แต่ใช้ประสบการณ์จากการเรียนรู้ไปแสวงหาคำตอบ
ในเรื่องที่ผู้เรียนสนใจ
๓. ส่วนประกอบของโครงงาน
                             การเขียนรายงานโครงงานเป็นรูปแบบหนึ่งของการเสนอผลงานที่นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้าตั้งแต่ต้นจนจบ โครงงานที่สมบูรณ์ควรประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ดังนี้
                               ๑. ชื่อโครงงาน
                               ๒. ชื่อผู้ทำโครงงาน ( บอกระดับชั้นและชื่อโรงเรียนด้วย )
                               ๓. ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา
                               ๔. บทคัดย่อ ( สรุปเรื่องที่ศึกษา วิธีการศึกษา และข้อค้นพบสั้น ๆ )
                               ๕. กิตติกรรมประกาศ ( ประกาศขอบคุณผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในกรณีที่มี )
                               ๖. ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
                               ๗. วัตถุประสงค์ของการศึกษาค้นคว้า
                               ๘. วิธีการศึกษาค้นคว้า
                               ๙. ผลที่เกิดขึ้น
                               ๑๐. สรุปผล
                               ๑๑. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
                               ๑๒. ข้อเสนอแนะ
                               ๑๓. เอกสารที่อ้างอิง
๔. ประโยชน์ของโครงงาน
     ๑.ได้รู้เกี่ยวกับชนิดของต้นกก
     ๒.ได้รู้เทคนิคการย้อมสีลายขิต
     ๓.ได้รู้เทคนิคการทำเสื่อพับและการเย็บแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สอย
๖.ขั้นตอนของโครงงาน
                               ขั้นตอนของโครงงานเป็นกิจกรรมที่ต่อเนื่องและมีการดำเนินงานหลายขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงขั้นสุดท้าย อาจสรุปลำดับได้ดังนี้
                               ๑. การคิดและเลือกหัวเรื่อง ผู้เรียนจะต้องคิดและเลือกหัวเรื่องของโครงงานด้วยตนเองว่าอยากจะศึกษาอะไร ทำไมจึงอยากศึกษา หัวเรื่องของโครงงานมักจะได้จากปัญหา คำถาม เช่น จากการอ่านหนังสือ เอกสาร คำประพันธ์ การไปเยี่ยม ชมสถานที่ต่าง ๆ การฟังบรรยายทางวิชาการ การเข้าชมนิทรรศการหรืองานประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ การสนทนากับบุคคลต่าง ๆ หรือจากการสังเกตปรากฏการณ์ต่าง ๆ รอบตัว เป็นต้น นอกจากนี้ ควรคำนึงเรื่องต่อไปนี้
                                     ๑.๑ ความเหมาะสมของระดับความรู้ ความสามารถของผู้เรียน
                                     ๑.๒ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้
                                     ๑.๓ ระยะเวลา
                                     ๑.๔ ความปลอดภัย
                                     ๑.๕ แหล่งความรู้
                               ๒. การวางแผน การวางแผนการทำโครงงาน จะรวมถึงการเขียนเค้าโครงของโครงงาน ซึ่งต้องมีการวางแผนล่วงหน้า เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างรัดกุมและรอบคอบไม่สับสน แล้วเสนอต่อผู้สอนหรือที่ปรึกษาเพื่อขอความคิดเห็นชอบก่อนดำเนินการขั้นต่อไป การเขียนเค้าโครงของโครงงานโดยทั่วไป เขียนเพื่อแสดงแนวคิด แผนงาน และขั้นตอนการทำโครงงาน
ซึ่งประกอบด้วยหัวข้อต่อไปนี้
                                     ๒.๑ ชื่อโครงงาน ควรเป็นข้อความที่กระทัดรัด ชัดเจน สื่อความหมายได้ตรง
                                     ๒.๒ ชื่อผู้ทำโครงงาน
                                     ๒.๓ ชื่อปรึกษาโครงงาน
                                     ๒.๔ หลักการและเหตุผลของโครงงานเป็นอธิบายว่าเหตุใดจึงเลือกทำโครงงานนี้มีความสำคัญอย่างไร มีหลักการหรือทฤษฏีอะไรที่เกี่ยวข้องเรื่องที่ทำได้ขยายเพิ่มเติม ปรับปรุงจากเรื่องที่ผู้อื่นทำไว้อย่างไร หรือเป็นการทำซ้ำเพื่อตรวจสอบผล
                                     ๒.๕ จุดมุ่งหมาย/วัตถุประสงค์ควรมีความเฉพาะเจาะจง และสามารถวัดได้
เป็นการบอกขอบเขตของงานที่ทำให้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
                                     ๒.๖ สมมติฐานของการศึกษา ค้นคว้า ( ถ้ามี ) สมมติฐานเป็นคำตอบหรือคำอธิบายที่คาดไว้ล่วงหน้า ซึ่งอาจจะถูกหรือไม่ก็ได้ การเขียนสมมติฐานควรมีเหตุมีผล มีทฤษฏีหรือหลักการรองรับ และที่สำคัญ คือเป็นข้อความที่มองเห็นแนวทางในการดำเนินการ ทดสอบได้นอกจากนี้ยังควรมีความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระและตัวแปรตามด้วย
                                     ๒.๗ วิธีดำเนิน/ขั้นตอนการดำเนินงานจะอธิบายว่า จะออกแบบการทดลองอย่างไร  อะไร  จะเก็บข้อมูลอย่างไรบ้าง รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็น ต้องใช้ มีอะไรบ้าง
                                     ๒.๘ แผนปฏิบัติงาน อธิบายเกี่ยวกับการกำหนดเวลาตั้งแต่เริ่มต้นจนเสร็จสิ้น
การดำเนินแต่ละขั้นตอน
                                     ๒.๙ ผลคาดว่าที่จะได้รับ
                                     ๒.๑๐ เอกสารอ้างอิง
                               ๓. การดำเนินงาน เมื่อที่ปรึกษาโครงงานให้ความเห็นชอบเค้าโครงของโครงงานแล้ว ต่อไปเป็นขั้นลงมือปฏิบัติงานตามขั้นตอนที่ได้ระบุไว้ ผู้เรียนต้องพยายามทำตามชุดที่วางไว้  เตรียมวัสดุอุปกรณ์และสถานที่ให้พร้อม ปฏิบัติงานด้วยความละเอียดรอบคอบ  คำนึงถึงความประหยัดและปลอดภัยในการทำงาน ตลอดจนการบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ว่า ได้ทำอะไรไปบ้าง 
ได้ผลอย่างไรบ้าง มีปัญหาและข้อคิดเห็นอย่างไร พยายามบันทึกให้เป็นระเบียบ และครบถ้วน
                              

                            ๔. การเขียนรายงาน การเขียนรายงานเกี่ยวกับโครงงาน เป็นวิธีสื่อความหมายวิธีหนึ่งที่จะให้ผู้อื่นได้เข้าใจถึงแนวคิด วิธีการดำเนินการ ผลที่ได้รับ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่าง ๆ เกี่ยวกับโครงงานนั้น การเขียนโครงงานควรใช้ภาษาที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย 
ชัดเจนและครอบคลุมประเด็นสำคัญ ๆ ทั้งหมดของโครงงาน

๒. ข้อมูลเกี่ยวกับกก

                  ต้นกกที่ใช้ทำเสื่อ เรียกว่า กกลังกา หรือกกกลม หรือ ไหล มีอยู่ทั่วไปในทุกจังหวัดในภาคอีสาน และมีมากในจังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด จังหวัดระยอง จังหวัดชลบุรี ต้นกกเป็นหญ้าชนิดหนึ่งมีหัวเหมือนข่า แต่แก่เล็กกว่า แล้วแตกแขนงเป็นต้นตามหัวของมัน อย่างเดียวกับข่า  กก มี๒ชนิด คือ
๑.    กกพื้นเมือง ตามภาษาพื้นเมือง เรียกว่า“กกเหลี่ยม” หรือ“ผือนา ที่เรียกเช่นนี้
เพราะลักษณะลำต้นเป็นเหลี่ยมสามเหลี่ยม ผิดกว่าต้นหญ้าธรรมดา ผิวของกกเหลี่ยมแข็งกรอบ และไม่เหนียว เมื่อนำมาทอเป็นผืนเสื่อแล้วขัดไม่เป็นเงา เฉพาะอย่างยิ่งใช้ไม่ทนทาน เพราะฉะนั้นจึงไม่มีผู้นิยมใช้กกชนิดนี้มาทำเป็นเสื่อมากนัก
๒.    กกพันธุ์ลังกา ภาษาพื้นเมือง เรียกว่า กกกลม หรือ ไหล ที่เรียกเช่นนี้ เนื่องจาก
ลำต้นของมันกลม ผิวอ่อนนุ่ม เหนียว ไม่กรอบ เมื่อนำมาทอเป็นเสื่อแล้วนิ่มนวลน่าใช้ ขัดถูก็เป็นมันน่าดู จึงมีผู้ใช้กกกลมมาทอเสื่อกันมาก
                  ประโยชน์ของกกมีหลายอย่าง ดังนี้
๑.    ทำเป็นเสื่อสำหรับนอน สำหรับปูพื้นในห้องรับแขกแทนพรม และปูลาดตามพื้น
โบสถ์ วิหาร เพื่อความสวยงาม เป็นต้น
๒.    ทำเป็นกระเป๋ารูปต่าง ๆ ได้หลายแบบ แล้วแต่ผู้คิดประดิษฐ์แบบต่าง ๆ กัน เช่น กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าหิ้วของสตรี
๓.    ทำเป็นหมอน เช่น หมอนรองที่นั่ง หมอนพิงพนักเก้าอี้
๔.    ทำเป็นกระสอบ เรียกว่า กระสอบกก
๕.    ทำเป็นเชือกสำหรับมัดของที่ห่อแล้ว

                 
บทที่ 
วิธีการศึกษา
                  ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ กลุ่มผู้ศึกษา กลุ่มผู้ศึกษาค้นคว้า ได้ดำเนินการศึกษาตามลำดับดังต่อไปนี้
๑. วิธีการศึกษา
๑.    ประชุมปรึกษาหารือกันภายในกลุ่ม
๒.    กำหนดหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา หรือหัวข้อโครงงาน
๓.    ร่างเค้าโครงโครงงานเสนอต่อครูที่ปรึกษา
๔.    เก็บรวบรวมข้อมูล
๕.    ลงมือปฏิบัติ
๖.    วิเคราะห์ข้อมูล
๗.    สรุปผล
๒. เครื่องมือและวัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ในการศึกษา
                  ๑. เครื่องมือในการทอเสื่อกก
๑.๑โฮงทอ
๑.๒  ไม้ขื่อ
๑.๓  ฟืม
๑.๔  ด้ายไนล่อน
๑.๕  ไม้สอด
๑.๖  ไม้หัวเสื่อ
๑.๗  กรรไกร
๑.๘  ต้นกกตากแห้ง และย้อมสี
๑.๙  ถังน้ำ
๑.๑๐ ผ้าสำหรับห่อต้นกก
๑.๑๑ สีย้อม



๒..    วัสดุ / อุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
๒.๑   กล้องถ่ายรูป
๒.๒   เครื่องคอมพิวเตอร์
๒.๓   แบบสอบถาม หรือแบบสัมภาษณ์
๒.๔   แบบบันทึกข้อมูลจากการศึกษาค้นคว้า
๒๕   แบบบันทึกข้อมูลการค้นคว้าทางอินเตอร์เน็ต


















                                                 บทที่  ๔
ผลการศึกษา

๑. ประวัติความเป็นมาและความสำคัญของการทอเสื่อกก
              ในสมัยก่อนการทอเสื่อกกนิยมใช้กกเหลี่ยม ซึ่งชาวบ้านเรียกว่าผือนา  มีลักษณะเป็นเหลี่ยม  ไม่มีความเหนียวหรือวาวมากนัก  แต่ต่อมาตามห้วย  หนอง  คลองบึง  ได้เกิดพืชชนิดหนึ่งลักษณะคล้ายกับผือนา  ชาวบ้านในท้องถิ่นเรียกว่า  “ไหล”  จึงมีคนลองเอามาทอเป็นเสื่อ  และมีคุณสมบัติดีกว่าผือนา  กล่าวคือ ลำต้นกลม  ผิวอ่อนนุ่มเหนียว  ไม่กรอบ  เมื่อทอเสื่อแล้วนิ่มน่าใช้  ขัดถูจะมันน่าดู  ในสมัยก่อนยังไม่นิยมย้อมสี  เพราะวัตถุประสงค์ทอใช้ในครัวเรือนเท่านั้น  แต่ปัจจุบันเมื่อต้นกกกลมมีมากในท้องถิ่น  และสามารถปลูกได้ในทั่วทุกภาคของประเทศไทย  จึงได้พัฒนาดัดแปลงลวดลาย  สีสันให้สวยงาม  จนกลายเป็นสินค้าในการจำหน่ายได้
    การทอเสื่อกกของบ้านหนองหัววัว  จากการสัมภาษณ์คุณยายบุญทัน สีหาบุตร คุณตาวิจิตร สีหาบุตร ผู้รู้ในหมู่บ้านหนองหัววัว ได้กล่าวว่า  การทอเสื่อกก ได้สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ  สมัยปู่ย่าตายายส่วนใหญ่ทอเพื่อใช้สอยในครัวเรือน  และสำหรับแลกเปลี่ยนสิ่งของซึ่งกันและกัน  ส่วนมากทำกันในกลุ่มแม่บ้านที่ว่างจากการทำนา    นิยมทำกันเกือบทุกครัวเรือน  ถ้ามีปริมาณมากก็จำหน่ายในราคาผืนละ  ๔๐ บาท โดยประมาณ
. ขั้นตอนวิธีการทอเสื่อกก
    ๑.  ขั้นเตรียมวัสดุ อุปกรณ์
        ๑.๑ ต้นกก
..  ตัดหรือเก็บเกี่ยวต้นกกจากแหล่งธรรมชาติ ห้วย หนอง คลองบึงในท้องถิ่น
..     นำต้นกกมาแยก  และเลือกกกที่มีขนาดเท่ากัน
..   นำต้นกกที่คัดเลือกได้ขนาดที่ต้องการแล้ว มาสอยเป็นสอง หรือ สามส่วน
ตามขนาดลำต้นของต้นกก  ถ้าเส้นเล็กผืนเสื่อกกจะทอได้ละเอียดและแน่นหนา)
..   นำเส้นกกที่สอยเสร็จแล้วมาผึ่งแดดให้แห้ง ประมาณ ๔-๕  วัน
..   นำเส้นกกที่ผึ่งแดดจนแห้งมามัดเป็นกำ ๆ ประมาณ ๑ กำมือ เพื่อเตรียม
นำไปย้อมสีตามต้องการ
         ๑.   การย้อมสี
             ..๑ เลือกซื้อสีที่ต้องการ (สีเคมี มีขายตามร้านค้า)
             ๑..๒ ออกแบบลายตามแบบที่ต้องการ
             ๑..๓ก่อไฟ นำปีบที่ใส่น้ำ ประมาณ ครึ่ง ปีบ ต้นน้ำจนเดือด
             ..๔นำสีที่ต้องการมาเทลงประมาณ ๑ ช้อนโต๊ะ แล้วคนให้สีละลาย
             ๑..๕นำเส้นกกที่มัดไว้ มัดละ ๑ กำมือ ลงไปย้อมโดยใช้เวลาประมาณ ๓๐-๔๐ นาที การย้อมสีหลายสีควรใช้ปีบคนละใบ เนื่องจากสีจะปนกัน
             ๑..๖นำเส้นกกที่ย้อมแล้วมาล้างน้ำเปล่าแล้วนำไปผึ่งแดดให้แห้ง
        ๑.  การทอเสื่อกก
             ๑..๑ กางโฮงทอเสื่อกก
             ..๒นำฝืนมาวางไว้ในช่องของโฮงทอ
             ๑..๓ สอดด้ายไนล่อนใส่ในรูฟืมโดยรูแรกและรูสุดท้ายใช้ด้าย ๔ เส้น จากนั้นก็สอดด้ายตามรูที่เรากำหนดแบบไว้
             ๑..๔ วางไม้ขื่อบนหัวเสาโฮงทอเพื่อให้เส้นด้ายตรึง
             ๑..๕ ลงมือทอโดยใช้ไม้สอดเส้นกกใส่ตามฟืมคว่ำหรือหงายสลับกัน ทุกครั้ง
คนทอจะเก็บปลาย(ไพ)กกสลับซ้ายขวา
..  เมื่อทอได้พอขนาดจะต้องเก็บม้วนผืนเสื่อโดยยกไม้ขื่อลงแล้วม้วนเสื่อ
..เมื่อทอเสร็จก็ตัดเสื่อออกจากโฮง แล้วมัดปลายเชือกให้เรียบร้อย
                        ..๙ ใช้กรรไกรตัดตกแต่งปลายกกริมด้านซ้ายและด้านขวาให้เรียบร้อย




















บทที่  ๕
สรุปผล  อภิปรายและข้อเสนอแนะ
                                                                           
สรุปผลการศึกษา
           ผลของการศึกษา  เรื่อง  การทอเสื่อกก  ทำให้ได้ทราบว่า การทอเสื่อกกมีการสืบทอดมาตั้งแต่สมัย ปู่ย่า ตายาย  โดยเริ่มแรกมีการใช้กกเหลี่ยม หรือที่เรียกว่าผือนา  ยังไม่มีการย้อมสีผลิตภัณฑ์ หรือทำลวดลาย  ส่วนใหญ่นำมาใช้ในครัวเรือน  ส่วนในปัจจุบันนิยมใช้กกกลมมาใช้แทนกกเหลี่ยม  เนื่องจาก หาง่ายในแหล่งธรรมชาติ  และเมื่อนำมาทอเสื่อแล้ว  มีคุณสมบัติเหนียว และเป็นมันวาว  

ประโยชน์ที่ได้รับ

    ๑. ได้เรียนรู้การทำงานจากประสบการจริง
    ๒. ได้เรียนรู้จักการทำงานเป็นทีม
    ๓. ได้ความรู้เรื่องการทอเสื่อกก จากผู้เชี่ยวชาญและปราชญาชาวบ้าน
    ๔. ได้รับความสนุกสนานและเป็นการเสริมสร้างความสามัคคี
    ๕. รู้จักการแก้ปัญหาในการทำงาน
    ๖. มีความตระหนัก และเห็นคุณค่าของภูมิปัญญาท้องถิ่น

ข้อเสนอแนะ
                    ๑.     ควรให้นักเรียน หรือผู้ที่สนใจ ได้ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากท้องถิ่นอื่น ๆ เพื่อ
เปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่างของผลิตภัณฑ์จากต้นกก ควรมีการพัฒนาและออกแบบลวดลายให้สวยงาม  
เอกสารอ้างอิง
                บ้านหนองหัววัว ตำบลโคกสี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น  ได้เริ่มกลุ่มจัดตั้งเสื่อเมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๘ และได้จดทะเบียนวิสาหกิจชุมชุนเมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๘



















 

ภาคผนวก

























วิธีการสร้างบล็อก


          ขั้นที่ 1 ตั้งเป้าหมายและเลือก keyword ในการทำบล็อก 
การเริ่มต้นครั้งแรกคุณควรจะวางเป้าหมายหรือจุดประสงค์ในการ
ทำบล็อกให้ชัดเจน ว่าจะทำเป็นบล็อกส่วนตัว   บล็อกเพื่อการศึกษา  เพื่อความบันเทิง เฉพาะเรื่อง หรือเพื่อธุรกิจ 

                1.1 แนวทางการหา Keyword เพื่อทำบล็อก
สำหรับมือใหม่ ให้ใช้วิธีง่าย ๆ โดยให้คิดว่า ถ้าคุณจะค้นหาเรื่องราวที่เกี่ยวกับเรื่องที่คุณจะเขียน คุณจะค้นด้วยคำค้นใด? 
สำหรับผู้ที่เคยทำบล็อกมาบ้างแล้ว ให้ศึกษาการทำ keyword research ที่บทความ 
แนวทางการทำ SEO Keyword research บน Blogger

                   1.2 ให้นำ Keyword นั้นมาตั้งเป็นชื่อของบล็อก 
เช่น ผมเขียนบล็อกเรื่องราวเกี่ยวกับแฟชั่น อาจจะใช้ keyword หรือวลีที่นำมาตั้งชื่อบล็อกเป็น sexyfasion 
ซึ่งถ้าตั้งชื่อบล็อกก็จะได้เป็น 
http://sexyfasion.blogspot.com
ซึ่งจะดีกับผลการค้นหามากกว่าใช้เครื่องหมาย dash คั่น เช่น 

http://sexy-fasion.blogspot.com


     ขั้นที่ 2 ลงทะเบียนใช้ Blogger โดยอ่านขั้นตอนได้จากบทความ 
2.1 
เริ่มต้นทำ blog ง่ายนิดเดียว 


ขั้นที่ 3 เลือกแม่แบบ ซึ่งเลือกได้ 3 วิธีคือ 
3.1 เลือกจากแม่แบบที่ blogger มีอยู่แล้ว 
                                      3.2 เลือกดาวน์โหลดที่แจกฟรี และเอามาแทนที่แม่แบบเดิม >> 
วิธีเปลี่ยน Templates ของ Blogger 
                                        3.3 ออกแบบด้วยตนเอง >> 
เครื่องมือสำหรับ ออกแบบแม่แบบด้วยตนเอง ใหม่! จาก blogger
3.4 
31Blogger Templates สวยแบบเรียบหรู


                                 ขั้นที่ 4 ลงมือเขียนบทความ ซึ่งควรอ่านจาก 2 บทความนี้ 
4.1 
วิธีเขียนและจัดการบทความในบล็อก(แบบพื้นฐาน) 
                   4.2 
เขียนบทความลง blogger ผ่านโปรแกรม Windows Live Writer 
4.3 วิธีทำให้บทความที่ต้องการอยู่หน้าแรกเสมอ 


                                                  ขั้นที่ 5 เรียนรู้ตั้งค่าพื้นฐานต่าง ๆ ให้กับบล็อก ศึกษาได้จากบทความต่อไปนี้ 
5.1 
การตั้งค่าพื้นฐานต่างๆ ให้กับบล็อก 
                   5.2 
รู้จักและใช้งาน Gadget ชนิดต่าง ๆ บน Blogger 
5.3 
การจัดการกับ Gadget ในหน้าบล็อก 
                                  5.4 
วิธีการติดตั้ง Gadget บน blogger และการใช้งาน Gadget BlogArchive 
                  5.5 
การจัดหมวดหมู่ให้กับบทความด้วย Label Gadget 
5.6 
การแสดงข่าวสารล่าสุดด้วย Gadget ฟีด 
             5.7 
วิธีใช้และตัวอย่างการใช้งาน Gadget หน้าเว็บ 



ขั้นที่ 6 ความรู้และเครื่องมือพื้นฐานก่อนที่จะทำการปรับแต่งบล็อก 
          6.1 
10 เครื่องมือพื้นฐานที่ชาว Blogger ควรมี 
6.2 วิธี Backup template ใน Blogger 
                                   6.3 
เปลี่ยน Templates แล้วจะใส่ Link ให้ Menu อย่างไร ? 
                       6.4 
รู้จักกับโครงร่างของโค้ด Template ใน Blogger 
   6.5 
วิธีเปลี่ยน background ของ blogger 
                         6.6 
วิธีย้าย Blogger จากบัญชีผู้ใช้หนึ่งไปสู่บัญชีผู้ใช้อื่น
                                        6.7 
วิธีใช้งาน Firebug ช่วยปรับแต่ง Blogger Layout (ฝึกใช้งานภายหลังได้)


                       ขั้นที่ 7 ลงทะเบียน Feed กับ Feedburner 
7.1 
ทำความรู้จักกับ Feed ใน Blogger 
7.2 FeedBurner ตัวช่วยให้ Feed แรง!!! 


ขั้นที่ 8 ทำ SEO Onpage
8.1 
ศัพท์ SEO ที่ Blogger ทุกคนควรรู้จัก  
8.2 
รู้จักกับ meta tag และติดตั้งลงใน blogger 
         8.3 
Trick การใส่ meta tag ให้กับบทความที่ต้องการ 
                            8.4 
วิธีการปรับแต่ง SEO Onpage บน Blogger ให้สมบูรณ์แบบ 
                        8.5 
วิธีทำให้ URL ของบทความใน Blogger เป็นมิตรกับ SEO 


ขั้นที่ 9 ทำ SEO Offpage 
9.1 
Roadmap การทำ SEO สำหรับ Blogger
                                       9.1 
การโปรโมทบล็อกตอนที่ 1 : วิธี Submit sitemap สำหรับ Blogger 
                       9.2 
การโปรโมทบล็อกตอนที่ 2 : การ Submit Feed และ Ping 
                    9.3 
การโปรโมทบล็อกตอนที่ 3 : การเข้าร่วมชุมชนคนทำบล็อก 
                               9.4 
การโปรโมทบล็อกตอนที่ 4: การ Submit blog กับ Social Bookmark 
9.5 
วิธีสมัครเข้าร่วม Networkedblogs บน Facebook
9.6 Link Wheel Project for Blogger


ขั้นที่ 10 ติดตัวนับสถิติคนเยี่ยมชมบล็อก 
   10.1 
ข่าว ดี!!! Blogger ติดตั้งเครื่องมือวิเคราะห์สถิติแล้ว
10.2 
Gadget นับสถิติคนเข้าชมบล็อกด้วย Histats 
10.3 
นับจำนวนคน เยี่ยมชมด้วย Flagcounter 


ขั้นที่ 11 บทความแนะนำ 
นอกเหนือจากบทความที่ได้กล่าวไปแล้ว บทความต่อไปนี้เป็นบทความที่ได้รับความนิยม และเป็นบทความที่ผมขอแนะนำดังนี้ 

2 ความคิดเห็น:

  1. เสื่อกกไม่เกี่ยวกับเรื่ืองที่ทำคลิปเลยนะทบทวนด่วนและติดต่อครูวันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม ด่วนที่สุดก่อนสายเกินไป

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไปอ่านดูหน้าบล็อกครูเรื่อง กำเนิดอักษรไทย เป็นตัวอย่างของกลุ่มปริยาภัทร

      ลบ